แน่นอนครับ การเดินทางที่แสนจะไกลจากที่เราอยู่นั้น ทั้งยังแตกต่างกันเป็นอย่างมากในเรื่องสภาพแวดล้อม สภาพอากาศ เพราะฉะนั้น เรื่องพละกำลัง และความสมบูรณ์พร้อมของร่างกายเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะทำให้เป้าหมายเมกะโปรเจคกราบแทบตักครูบาอาจารย์ของเรา ประสมผลสำเร็จตามที่ตั้งใจเอาไว้
วันนี้เริ่มต้นเตรียมความพร้อมทางร่างกาย ด้วยการไปวิ่งที่สวนสาธารณะ ในหมู่บ้าน หลังจากที่เมื่อบ่าย ๆ วันนี้ไปซื้อรองเท้าสำหรับวิ่งมาแล้ว เริ่มจาก วิ่งเหยาะ ๆ แล้ว ค่อย ๆ เร็วขึ้นเรื่อย ๆ เร็วขึ้นเรื่อย ๆ หะหะหะหะ ไม่ไช่ผมหรอกครับ แต่เป็นเด็ก ๆ ต่างหาก ที่วิ่งแซงน็อครอบผมไปแล้ว
ผมวิ่งได้ประมาณ 5 รอบก็รู้ศึกว่าเหนื่อยมากแล้วหละครับ เลยเปลี่ยนเป็นเดินอีกรอบหนึ่ง แค่นั้น น่าจะเป็นการปฐมฤกษ์ที่ดีสำหรับการเตรียมความพร้อมทางร่างกาย พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554
วันพุธที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ข้อที่ 2 も 、 の โม๊ะ และ โน๊ะ
も แปลว่า ด้วย,ก็
จะใช้บอกว่า อะไรๆ......................ด้วย
เช่น
A : わたしは タイじん です。 ฉันเป็นคนไทย
B : わたちも タイじん です ฉันก็เป็นคนไทย
หรือ
A : まりさんは 日本から きました。มาริมาจากญี่ปุ่น
B : まさこさん 日本から きました。มาซาโกะก็มาจากญี่ปุ่นด้วยเหมือนกัน
ส่วน の ใช้บอกว่า ไอ้นี่เป็นของไอ้นั่น, ไอ้นั่นเป็นของฉัน, ไอ้นั้นเป็นของคุณคนนี้
เช่น เมื่อมีคนถามว่าอันนี้เป็นของไคร และเราจะบอกว่าเป็นของเรา
A : これ かばんは だれの ですか。 กระเป๋าอันนี้ของไครค่า
B : わたしの です。 ของผมครับ
ในที่นี้ใช้แทนกระเป๋า แทนที่จะบอกว่า"กระเป๋าอันนั้นเป็นของผมครับ" ก็บอกแค่เพียง "ของผมครับ"
หรือ
この くるまは TOYOTAの しゃいんです。รถยนต์คันนั้นเป็นของบริษัทโตโยต้า
จะใช้บอกว่า อะไรๆ......................ด้วย
เช่น
A : わたしは タイじん です。 ฉันเป็นคนไทย
B : わたちも タイじん です ฉันก็เป็นคนไทย
หรือ
A : まりさんは 日本から きました。มาริมาจากญี่ปุ่น
B : まさこさん 日本から きました。มาซาโกะก็มาจากญี่ปุ่นด้วยเหมือนกัน
ส่วน の ใช้บอกว่า ไอ้นี่เป็นของไอ้นั่น, ไอ้นั่นเป็นของฉัน, ไอ้นั้นเป็นของคุณคนนี้
เช่น เมื่อมีคนถามว่าอันนี้เป็นของไคร และเราจะบอกว่าเป็นของเรา
A : これ かばんは だれの ですか。 กระเป๋าอันนี้ของไครค่า
B : わたしの です。 ของผมครับ
ในที่นี้ใช้แทนกระเป๋า แทนที่จะบอกว่า"กระเป๋าอันนั้นเป็นของผมครับ" ก็บอกแค่เพียง "ของผมครับ"
หรือ
この くるまは TOYOTAの しゃいんです。รถยนต์คันนั้นเป็นของบริษัทโตโยต้า
วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ว่าด้วยตัวเรา
ชีวิตหนึ่ง จะทำอะไรได้สำเร็จเหมือนคนอื่นบ้างได้หรือ
ชีวิตหนึ่ง จะสามารถเดินเฉิดฉายเหมือนคนอื่นบ้างได้หรือ
ชีวิตหนึ่ง พอใจแล้วหรือกับปัจจุบัน
ที่ผ่านมา นึกไม่ออกเลยว่ามีสิ่งใหนที่น่าภูมิใจในตัวเองบ้าง
ที่ผ่านมา นึกไม่ออกเลยว่าสิ่งใหนที่ทำรู้สึกดีใจบ้าง
มีชีวิตที่อับเฉาไปวัน ๆ
ตอนเด็ก ๆ ไคร ๆ ก็ถามกันว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร
ป่านนี้จนโตก็ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้
ตอนเด็กเล่นดนตรี ตัวโน็ตสักตัวเดียวก็อ่านไม่เป็น
ตีระนาด เป่าบารีโทน ก็สักแต่ว่าดัง
โดนไล่ออกจากหอพัก ตอนเรียนมหาวิทยาลัย
ตอนทำงานก็ตักหมึก จนมีอแตก. ไม่พอ.
ตักหมึกจนโรงงานเจ๊ง
ทุกวันนี้ทำอะไร
วันพรุ่งนี้ทำอะไร
วันต่อๆไปทำอะไร
ชีวิตหนึ่ง จะสามารถเดินเฉิดฉายเหมือนคนอื่นบ้างได้หรือ
ชีวิตหนึ่ง พอใจแล้วหรือกับปัจจุบัน
ที่ผ่านมา นึกไม่ออกเลยว่ามีสิ่งใหนที่น่าภูมิใจในตัวเองบ้าง
ที่ผ่านมา นึกไม่ออกเลยว่าสิ่งใหนที่ทำรู้สึกดีใจบ้าง
มีชีวิตที่อับเฉาไปวัน ๆ
ตอนเด็ก ๆ ไคร ๆ ก็ถามกันว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร
ป่านนี้จนโตก็ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้
ตอนเด็กเล่นดนตรี ตัวโน็ตสักตัวเดียวก็อ่านไม่เป็น
ตีระนาด เป่าบารีโทน ก็สักแต่ว่าดัง
โดนไล่ออกจากหอพัก ตอนเรียนมหาวิทยาลัย
ตอนทำงานก็ตักหมึก จนมีอแตก. ไม่พอ.
ตักหมึกจนโรงงานเจ๊ง
ทุกวันนี้ทำอะไร
วันพรุ่งนี้ทำอะไร
วันต่อๆไปทำอะไร
วันเสาร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ฉันรักประเทศไทย # 3
บ่ายวันอาทิตย์วันหนึ่งนั้น ฉันขับรถไปแถว ๆ สุขุมวิท ฉันจำเป็นต้องจอดรถริมฟุตบาท เพื่อที่จะไปซื้อหนังสือ ฉันทราบดีว่าถนนเส้นนี้การจราจรคับคั่งเพียงใด ฉันจึงพยายามหาริมฟุตบาทบริเวณที่ปราศจากการเปื้อนสี เหลือง แดง แล้วค่อย ๆ เทียบสองล้อเข้าชิดขอบฟุตบาท ขอย้ำ ชิดขอบ พร้อมกับเปิดไฟฉุกเฉิน ติ๊บ ติ๊บ ๆ ๆ ๆ เอาไว้เพื่อบอกว่า ขอจอดสักพักเท่านั้น ไม่ทันไรเลย ผู้รักษากฏหมายก็ควบสองล้อจากภาษีประชาชน มาบีบแตร พร้อมกับตะโกนโหวกเหวก หาเจ้าของรถ ร่ำ ๆ จะแจกใบสั่งท่าเดียว ใหนจะบอกว่า จอดอย่างนี้ได้ยังไง ดูสิ รถติดยาวเป็นขบวน, ฉันจำต้องรีบออกจากร้านทั้งที่ยังเดินไม่ทั่วร้านด้วยซ้ำไป หนังสือก็ยังไม่ได้สักเล่ม
หากจะเอาเข้าจริง ฉันก็ไม่ทราบหรอกว่า ถนนเส้นนี้เขาห้ามจอดตลอดแนว ฉันเข้าใจแต่ว่าห้ามจอดริมฟุตบาทที่มีสีแดงทาเอาไว้ ที่ทาสีเหลืองเขาให้จอดได้ชั่วคราว ส่วนที่ไม่ได้ทาสีเอาไว้ ก็ไม่เห็นว่าจะมีข้อห้ามอะไร หนำซ้ำ ช่วงบ่ายวันอาทิตย์วันนั้นบนถนนสุขุมวิทขาออกปริมาณรถก็ไม่ได้มากมายแต่อย่างใด แล้วจะเป็นไรไปที่ฉันจะเสียมารยาทจอดรถริมฟุตบาท
กระนั้นก็เหอะ ฉันก็ไม่ได้โดนปรับค่าจอดรถในที่ไม่ได้ห้ามจอด (หรือเปล่า) นอกจากความอาการที่แสดงออกมาอย่าวว่าฉันผิดราวกับนักโทษประหาร
แล้วเป็นอย่างไรเล่า
วันนี้ฉันไปทำธุระที่นี่ ในขณะที่ฉันกำลังจะข้ามไปฝั่งร้านขายของตกแต่งบ้าน ฉันก็เห็นรถคันคุ้นตาจากภาษีประชาชนขับสวนกับฉันบนทางเดินเท้าและคลานไปจอดสนิท แต๊ต ๆ ๆ ๆ ๆ ท่ามกลางสายตาประชาชนนับหลายสิบคู่ รวมไปถึงนายฮ้อยหน้าห้างผู้คอยอำนวยความสะดวกโบกรถหยอย ๆ รักษากฏจราจรให้กับผู้ที่มาช่วยกันจ่ายเงินเดือนให้พวกเขา
จะทำอย่างไรเล่า หากมีบางคนที่เกรียนกว่าฉัน ขับรถมาจอดเทียบข้างกัน นายฮ้อยหน้าห้างจะทำได้อย่างไรเล่าหากมาไล่เกรียนไม่ให้จอดรถตรงนี้ แล้วนายฮ้อยจะทำอย่างไรเล่าถ้าเกรียนจะเถียงว่า ทีรถคันนี้ยังจอดได้แล้วทำไมเกรียนจะจอดไม่ได้ แล้วผู้ที่ขับขี่รถจากภาษีประชาชนจะบอกเกรียนว่าอย่างไรเล่า
แล้วทุกวันนี้หละเป็นอย่างไรเล่า เมื่อเราเป็นซะเอง จะว่าอยู่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ก็ไม่แน่ใจ (แต่ฉันคิดว่าไม่นะ) แล้วทำไมครับ ทำไมไม่จอดในที่ ๆ เขาจัดเอาไว้หละครับ แล้วทำไมครับ ทำไมไม่ทำเหมือนคนอื่น ๆ เขา แล้วทำไมครับ แล้วทำไม ทำไม ,,,,,,,,,,, ในเมื่อคุณเป็นก็ผู้มีอำนาจบอกคนอื่นได้ หากแค่จะช่วยเป็นแบบอย่างที่ดีให้เรา ๆ ได้ดูเป็นตัวอย่างคงจะชื่นใจไม่ใช่น้อยนะครับ
นี่เป็นเพียงมุมที่ฉันเห็นเท่านั้นฉันเขียนจากความรู้ศึกล้วน ๆ แถมยังใส่ไข่ไปอีกหลายใบ ใข่เน่า ๆ จากสมองของฉันที่ไม่ค่อยจะพัฒนา ทำให้ฉันยึดติดกับสิ่งเหล่านี้
ฉันอยากจะเกรียนพอที่จะโวยวายกับเรื่องนี้ และฉันก็ได้แค่พูดเบา ๆ ว่า ทำไมไม่จอดในที่เขาให้จอด หลังจากฉันเดินผ่านไปแล้ว สามเมตร
วันพฤหัสบดีที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2554
ข้อที่ 1 です、 じゃ ありません、 ですか
คำนาม1 は คำนาม2 です。 อะไร ๆ ก็เป็น เช่น ผมเป็น..... คุณเป็น...... เขาเป็น......
1. は มันจะบอกว่าอะไร ๆ ที่อยู่ข้างหน้ามันเป็นหัวข้อเรื่องนั่นเอง
2. です ประมาณว่าอะไร ๆ ที่อยู่ข้างหน้ามัน ก็ต้องเป็นไปตามนั้น. เอออ ก็ใช่
ตัวอย่าง わたしは ヨンユツト です。 = ผมเป็นยงยุทธครับ หรือ ผม ยงยุทธ ครับ
わたしは タイじん です。 = ผมเป็นคนไทย
わたしは がくせい です。 = ผมเป็นนักเรียน
たくしんさんは いしゃ です。= คุณทักษินเป็นหมอ
แต่ถ้าจะบอกว่าเราไม่ได้เป็นไอ้นั่น ไอ้นู่น ไอนี่ (รูปปฏิเสธ) นั้นก็แค่เปลี่ยนจาก です。ไปเป็น じゃ ありません。 ซึ่งจะทำให้ อะไร ๆ ก็จะไม่เป็น เช่น ผมไม่ได้เป็น..... คุณไม่ได้เป็น...... เขาไม่ได้เป็น......
わたしは がくせい じゃ ありません。 = ผมไม่ได้เป็นนักเรียน
たくしんさんは いしゃ じゃ ありあせん。= คุณทักษินไม่ได้เป็นหมอ
แต่....... อย่าเอามาใช้เมื่ออยากจะบอกว่า
わたしは ヨンユツト じゃ ありません。 = ผมไม่ได้เป็นยงยุทธครับ
わたしは タイじん じゃ ありません。 = ผมไม่ได้เป็นคนไทย
ทำไมนะเหรอ ลองคุณเป็นคนไทย แล้วบอกว่าไม่ได้เป็นคนไทยดูสิ ฮ่า ฮ๋า ฮ๋า
3. ですか ตัวสุดท้าย คือการเติม か หลัง です ซึ่งจะทำให้ประโยคเปลี่ยนไปเป็น ประโยคคำถาม เป็นไอ้นี่......ไช่ใหม ไอ้นั่น......ไช่ใหม ไอ้โน่น..........ไช่ใหม ส่วนผู้ตอบ ก็ตอบว่า ไช่/ไม่ไช่ แค่นี่เองครับ ง่ายนิดเดียว
มาดูตัวอย่างครับ
ถาม たくしんさんは いしゃ ですか。 = คุณทักษินเป็นหมอไช่ใหม?
ตอบ ไช่ はい。いしゃ です。 = ไช่ครับ เป็นหมอครับ
ตอบ ไม่ไช่ いいえ、いしゃじゃ ありません 。 = ไม่ไช่ครับ ไม่ได้เป็นหมอครับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)